วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2566

แหลมมลายู ดินแดนแห่งการอยู่ร่วมกัน ท่ามกลางความหลากหลายอย่างสันติ

แหลมมลายู ดินแดนแห่งการอยู่ร่วมกัน ท่ามกลางความหลากหลายอย่างสันติ

คำว่า“แหลมมลายู” แหลมมลายูนั้นได้มีการกำหนดอาณาเขตตั้งแต่เมืองไชยา (จังหวัดสุราษฎรธานี) จรดถึงเกาะสุมาตราแห่งอินโดนิเซีย ชื่อคำว่า“ไชยา” หมายถึง รัศมี ตามภาษามลายู และชื่อบ้านนามเมืองในหลายพื้นที่ของภาคใต้ยังคงใช้ภาษามลายูเดิมอยู่ เช่น“ตรัง” แปลว่า สว่าง“ภูเก็ต”แปลว่า ภูเขา รวมทั้งชื่อสงขลา กระบี่ พังงา สตูล เกาะสมุย เกาะซัมมิลัน เกาะลีเปะ  เกาะอาดัง ฯลฯ

ด้วยข้อมูลดังกล่าวนี่ จึงทำให้ดินแดนแห่งนี้ถูกเรียกขานว่า เป็น “แหลมมลายู” ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ว่า ผู้คนดั้งเดิมที่มีบทบาทและอาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ส่วนมากจะเป็นชาติพันธุ์มลายู ซึ่งมีการนับถือศาสนาที่หลากหลายตามความเชื่อ ซึ่งทั้งมลายูบูชาไฟ มลายูฮินดู มลายูพุทธมหายาน มลายูอิสลาม และยังมีชาติพันธุ์เชิงซ้อน ผสมผสานทั้งชาติพันธุ์ซัมซัม(สยาม) มอญ ขอม จีน และซาไก เซมัง(ออรังอัสลี)

ส่วนจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นมลายูอิสลาม และรองลงมาคือมลายูพุทธ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น

ในยุคสมัยของราชวงศ์ศรีวังสานั้น โดยเฉพาะยุคสมัยของสุลต่านอิสมาอีล ชาห์ ผู้เขียนมีความเห็นว่า ถึงแม้พระองค์จะเข้ารับอิสลามโดยเปลี่ยนจากศาสนาพุทธมหายานมาเป็นอิสลาม แต่บรรดาราษฎรของพระองค์ก็ใช่ว่าจะรับอิสลามเช่นเดียวกับพระองค์ไปทั้งหมด เพราะในศาสนาอิสลามนั้น ได้มีข้อบัญญัติว่า“ไม่มีการบังคับในการนับถือศาสนาอิสลาม” แสดงว่าราษฎรที่ไม่ศรัทธาก็ยังคงยึดถือศาสนาเดิมอยู่ หมายถึงศาสนาพุทธมหายานและศาสนาพราหมณ์กันต่อไป

ดังนั้นวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่แห่งนี้ จึงมีวิถีความเชื่อที่หลากหลายและเป็นสังคมแห่งพหุวัฒนธรรมที่บ่งบอกถึงการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความหลากหลายอย่างสันติมาตั้งแต่เนินนานแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น