แหลมมลายู
ดินแดนแห่งการอยู่ร่วมกัน ท่ามกลางความหลากหลายอย่างสันติ
คำว่า“แหลมมลายู”
แหลมมลายูนั้นได้มีการกำหนดอาณาเขตตั้งแต่เมืองไชยา (จังหวัดสุราษฎรธานี)
จรดถึงเกาะสุมาตราแห่งอินโดนิเซีย ชื่อคำว่า“ไชยา” หมายถึง รัศมี
ตามภาษามลายู และชื่อบ้านนามเมืองในหลายพื้นที่ของภาคใต้ยังคงใช้ภาษามลายูเดิมอยู่
เช่น“ตรัง” แปลว่า สว่าง“ภูเก็ต”แปลว่า ภูเขา รวมทั้งชื่อสงขลา
กระบี่ พังงา สตูล เกาะสมุย เกาะซัมมิลัน เกาะลีเปะ เกาะอาดัง ฯลฯ
ด้วยข้อมูลดังกล่าวนี่
จึงทำให้ดินแดนแห่งนี้ถูกเรียกขานว่า เป็น “แหลมมลายู”
ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ว่า ผู้คนดั้งเดิมที่มีบทบาทและอาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ส่วนมากจะเป็นชาติพันธุ์มลายู
ซึ่งมีการนับถือศาสนาที่หลากหลายตามความเชื่อ ซึ่งทั้งมลายูบูชาไฟ มลายูฮินดู
มลายูพุทธมหายาน มลายูอิสลาม และยังมีชาติพันธุ์เชิงซ้อน
ผสมผสานทั้งชาติพันธุ์ซัมซัม(สยาม) มอญ ขอม จีน และซาไก เซมัง(ออรังอัสลี)
ส่วนจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น
ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นมลายูอิสลาม และรองลงมาคือมลายูพุทธ
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ในยุคสมัยของราชวงศ์ศรีวังสานั้น
โดยเฉพาะยุคสมัยของสุลต่านอิสมาอีล ชาห์ ผู้เขียนมีความเห็นว่า ถึงแม้พระองค์จะเข้ารับอิสลามโดยเปลี่ยนจากศาสนาพุทธมหายานมาเป็นอิสลาม
แต่บรรดาราษฎรของพระองค์ก็ใช่ว่าจะรับอิสลามเช่นเดียวกับพระองค์ไปทั้งหมด
เพราะในศาสนาอิสลามนั้น ได้มีข้อบัญญัติว่า“ไม่มีการบังคับในการนับถือศาสนาอิสลาม”
แสดงว่าราษฎรที่ไม่ศรัทธาก็ยังคงยึดถือศาสนาเดิมอยู่ หมายถึงศาสนาพุทธมหายานและศาสนาพราหมณ์กันต่อไป
ดังนั้นวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่แห่งนี้
จึงมีวิถีความเชื่อที่หลากหลายและเป็นสังคมแห่งพหุวัฒนธรรมที่บ่งบอกถึงการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความหลากหลายอย่างสันติมาตั้งแต่เนินนานแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น