❌💯เกาะกระแสข่าว “การเจาะเอ็นร้อยหวาย”
กลายเป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์
กรณีมีเกมส์ไพ่ ชื่อว่า Patani Colonial
Territory เนื้อหา
บิดเบือนประวัติศาสตร์สร้างวาทกรรมแตกแยก
“เชลยศึกปัตตานีถูกทารุณด้วยการเจาะเอ็นร้อยหวาย”
ความจริงเรื่องนี้
มีงานวิชาการหรืองานวิจัยหลายชิ้น ที่ได้ศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์นี้มาอย่างลึกและละเอียดรอบด้าน
ซึ่งสามารถโต้แย้งวาทกรรมบิดเบือนนี้ได้ ยกตัวอย่างบทความของนายจีรวุฒิ บุญรัศมี
เป็นอดีตข้าราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
ได้ให้ความจริงมาโต้แย้งการบิดเบือนเกมไพ่ดังกล่าว ผ่านข้อเขียนบทความ “สยามทารุณเชลยศึกปัตตานีด้วยการเจาะเอ็นร้อยหวาย
เรื่องโกหกทางประวัติศาสตร์ #ผ่านโฆษณาชวนเชื่อของนักบิดเบือน”
บทความระบุว่า
การทารุณเชลยศึกปัตตานีด้วยการเจาะเอ็นร้อยหวาย ทำให้ฟังดูราวกับว่า
สยามนั้นช่างโหดร้ายทารุณ จึงได้ค้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพื่อนำมาสนับสนุน
“ความเชื่อ” ดังกล่าว กลับพบว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
และเป็นเรื่องตรงกันข้ามด้วยซ้ำ
การขุดคลองแสนแสบกับการเจาะเอ็นร้อยหวายนั้น
เป็นคนละเรื่องกัน คลองแสนแสบที่กรุงเทพขุดโดยแรงงานชาวจีนโพ้นทะเล
และขุดมาก่อนที่เชลยศึกจากปัตตานี ถูกกวาดต้อนขึ้นกรุงเทพด้วยซ้ำ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เชลยปัตตานีจะเป็นผู้ขุดคลองดังกล่าว
ผู้เขียนบทความยืนยันข้อมูลด้วยวิจัยของ
อ.สุเนตร ชุตินธรานนท์ แห่งสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ร่วมกับนายแพทย์จิรันดร์ อภินันท์ ได้ทำการศึกษาและจัดทำวิจัยในหัวข้อ
“ข้อเท็จจริงเอ็นร้อยหวาย : ประวัติศาสตร์บาดแผลสยาม-ปตานี” (พ.ศ. 2561) พบว่า “ไม่มีหลักฐานร่วมสมัยที่เป็นลายลักษณ์อักษรยืนยันว่ากองทัพสยามได้เจาะเอ็นร้อยหวายกับเชลยปัตตานี”
ไม่ว่าจะเป็นครั้งที่ปัตตานีถูกตีแตกในสมัยรัชกาลที่ 1 (พ.ศ. 2329)
หรือสมัยกบฏไทรบุรีในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่มักมีการเล่าต่อกันมาว่า
เชลยศึกปัตตานีถูก
บทวิจัยได้สรุปว่า
การเจาะเอ็นร้อยหวายเชลยศึกปัตตานี “เป็นเพียงเรื่องเล่าอ้างสืบต่อกันมา” และ “ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ”
รวมถึงยังมีข้อมูลที่เชื่อถือได้
จากผู้ให้สัมภาษณ์ซึ่งเป็นลูกหลานของเชลยศึกชาวปัตตานีในกรุงเทพฯ ท่านหนึ่ง
ได้ให้ข้อมูลต่อคณะผู้วิจัยตรงๆ ว่า “การเจาะเอ็นร้อยหวายนี้เป็นเรื่องที่กุขึ้น
หรือแต่งเติมขึ้น เพื่อให้เกิดความเกลียดชังระหว่างไทยกับมลายู” ความเชื่อเช่นนี้
ไม่มีความสมเหตุสมผลในทางประวัติศาสตร์ และเป็นเพียง “โฆษณาชวนเชื่อของพวกต่อต้านรัฐ”
เท่านั้น
ฝากไปยังผู้ปกครองหากพบบุตรหลานมีไพ่นี้นำมาเล่นผู้ปกครองต้องให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
#อย่าให้ถูกชักจูงความคิด โดยใครก็ไม่รู้ ซึ่งทำให้ไปรับข้อมูลมาผิดๆ
พร้อมฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ต้องไปหามาตรการป้องกันหรือให้การศึกษาที่ถูกต้องกับเยาวชน และหากพบว่าใครได้สร้างข้อมูลบิดเบือน
หรือสร้าง Fake News #สร้างวาทกรรมผิดๆ #ให้สังคมเกิดความแตกแยก ก็ต้องมีแนวทางป้องกันหรือจัดการอย่างเหมาะสม
ไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น จนทำลายความสงบสุขของคนในสังคมไทย...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น