วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2565

บังคับใช้กฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรง

การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้โดยใช้นโยบาย “กฎหมายนำ การทหารตามการเมืองขยาย” มุ่งใช้กระบวนการทางกฎหมายนำการปฏิบัติการทางทหาร เป็นมาตรการที่เดินมาอย่างถูกทาง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เป็นจำนวนมาก มีการเก็บพยานหลักฐาน เพื่อส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่งผลให้พยานหลักฐานดังกล่าว มีความเที่ยงตรงใช้ประกอบสำนวนคดีในการฟ้องร้องผู้ต้องหาในชั้นศาลอีก

อีกทั้งกระบวนการซักถามของเจ้าหน้าที่มีส่วนสำคัญที่เป็นข้อมูลขั้นต้นว่ามีความเกี่ยวพันกับคดีหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการก่อเหตุ นำไปสู่การฟ้องดำเนินคดีซึ่งศาลรับฟังผลจากการซักถาม บทเรียนจากการบังคับคดีการก่อการร้าย หรือก่อกบฏ ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้มีการวางแผนเป็นอย่างดี เพื่อเลี่ยงการทิ้งพยานหลักฐานในที่ก่อเหตุ มีการเตรียมการในการลงมือ ซึ่งหากขาดพยานหลักฐานในการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา การต่อสู้ในชั้นศาลขาดน้ำหนักนำไปสู่การยกฟ้องคดี

สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการเรียกร้องของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเรื่องของความเสมอภาคเท่าเทียมกันในการบังคับใช้กฎหมาย และมีมาตรฐานเดียวกันไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธ-มุสลิม หรือคนกลุ่มไหนก็แล้วแต่ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การดูแลพื้นที่หมู่บ้านชุมชนเข้มแข็ง ปัญหาด้านยาเสพติด การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ควรที่จะได้รับการดูแล

ขณะที่ พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะฯ ได้เดินทางลงพื้นที่พบปะ/เยี่ยมคารวะ นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส และคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ร่วมพูดคุยรับฟังความคิดเห็นกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาสอำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อรับข้อมูลข้อเสนอแนะต่างๆ จากประชาชนในพื้นที่มากมาย

พลโทศานติ ศกุนตนาค ระบุว่าจะดำเนินการเรื่องยาเสพติด ลุยกวาดล้าง ในทุกหมู่บ้านเป็นอันดับแรกๆ เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อเยาวชน และบุคคลในครอบครัว โดยจะใช้กฎหมายในการเข้าดำเนินการ และจะไม่ใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด

การมุ่งจัดการกับปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดเป็นอันดับแรก ไม่ได้หมายความว่านโยบายของแม่ทัพภาคที่ 4 ท่านใหม่ จะไม่ให้น้ำหนักกับเรื่องอื่นๆ แต่ “ภัยแทรกซ้อนไฟใต้  ถือว่าเป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่สุด ของสถานการณ์ความไม่สงบตลอดเกือบ 18 ปีที่ผ่านมา เพราะ เรื่องนี้ทีมงานของ พลโทศานติ ศกุนตนาค ยืนยันว่า ท่านแม่ทัพ เข้าใจปัญหาภาคใต้ เป็นอย่างดี ว่ามีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งแนวคิดแบ่งแยกดินแดน การต่อต้านรัฐไทย รวมไปถึงปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ และภัยแทรกซ้อนจากยาเสพติดและธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งมีการย้ำ อย่างชัดเจนจากแม่ทัพภาคที่ 4 ท่านใหม่ว่า “จะใช้กฎหมายในการ เข้าดำเนินการ และจะไม่ใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด”

นั่นแสดงให้เห็นว่า รูปแบบการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การใช้กฎหมายนำ การทหารตาม การเมืองขยาย ไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในแก้ปัญหา มาตรการปิดล้อม ตรวจค้น จะดำเนินการเท่าที่จำเป็น

รวมทั้งเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองกำลังต้องเป็นไปตามขั้นตอน และมีหลักฐานชี้แจงได้ทุกเหตุการณ์ จะช่วยลดแรงกระเพื่อมและความคลุมเครือในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ จากการตั้งข้อสงสัยและนำไปสู่การฟ้องร้องละเมิดสิทธิจากองค์กรภาคประชาสังคมที่เคลื่อนไหว และตอบโจทย์ การแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ เป็นความหวังในการนำสันติสุขกลับคืนมาสู่พื้นที่ในเร็ววัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น