ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วง 18 ปีที่ผ่านมา
ได้ส่งผลกระทบในเชิงสังคมต่อเด็กและคนในพื้นที่อย่างรุนแรง
นอกจากตัวเลขการเสียชีวิตและบาดเจ็บแล้ว
ยังพบเด็กกำพร้า ที่มีมากกว่าห้าพันคน ส่วนใหญ่กำพร้าพ่อและกลุ่มที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่
ซึ่งกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น
และยังพบปัญหาตามมาญาติที่ต้องรับภาระเป็นผู้ปกครองดูแลเด็กต้องการเงินเยียวยาเพียงอย่างเดียว
แต่ไม่ต้องการดูแลเด็ก ปัญหาเด็กที่ขาดพ่อหรือแม่
สาเหตุเกิดจากการใช้ความรุนแรงของกลุ่มขบวนการ ผกร.ในพื้นที่
ล่าสุด
เพจ : มูลนิธินูซันตารา (NUSANTARA Patani) ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อเด็กกำพร้าในพื้นที่
ได้มีการประชาสัมพันธ์จัดกิจกรรมหารายได้ช่วยเหลือเด็กกำพร้า ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ปัจจุบัน
มีเด็กกำพร้า ประมาณกว่า 200 คน ที่มูลนิธินูซันตารา ให้ทุนการศึกษาต่อเนื่อง
โดยส่วนใหญ่กำพร้าจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งการจัดกิจกรรมทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
หากดูผิวเผินแล้ว
เหมือนเป็นการหารายได้ช่วยสังคม เป็นความปรารถนาดีในการช่วยเหลือเด็ก
แต่โดยเนื้อแท้แล้วเด็กกำพร้าเหล่านี้ เป็นผลพวงจากการใช้ความรุนแรงตลอดระยะเวลาสิบกว่าปี
ที่ผ่านมา
ที่สำคัญกลับมีกลุ่มองค์กรที่เปิดมูลนิธิขึ้นมาบังหน้าเพื่อทำการหากินกับเด็ก
การดำเนินกิจกรรมแทบทุกครั้ง
ยังคงยึดความต้องการของกลุ่มตัวเองเป็นหลัก คือนอกจากใช้โอกาสในการหารายได้เข้ามูลนิธิแล้ว
ยังแสวงประโยชน์เข้าตนเอง และยังคงเชื่อว่า นอกจากนี้แล้วยังมีการบ่มเพาะให้เด็กเยาวชนเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐ
บิดเบือนข้อเท็จจริงกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐคือ อาชญากรก่อความรุนแรงต่อครอบครัวเด็ก
ล้วนแล้วเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่แทบทั้งสิ้น ทำให้เด็กเกิดความโกรธแค้นจงเกลียดจงชัง
นำมาสู่การใช้ความรุนแรงที่ไม่มีวันจบสิ้น
สำหรับมูลนิธินูซันตารา
(NUSANTARA
Patani)
มีนายมูฮำหมัดอาลาดี เด็งนิ
เป็นประธานมูลนิธิ ที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ประสานสอดคล้องกับปีกการเมืองกลุ่มขบวนการ
BRN และเชื่อว่ายังมีองค์ต่างๆ เข้ามามีส่วนในการขับเคลื่อนมูลนิธิ
โดยมูลนิธิ
ดึงคนในพื้นที่เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน
เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของกลุ่มมีการโฆษณาชวนเชื่อ ให้มาทำบุญร่วมกันให้กับเด็กกำพร้า
โดยอ้างหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อต้องการเงินเยียวยาเป็นหลัก
แท้จริงแล้วการเข้ามาช่วยเหลือแอบแฝงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตนเองเป็นหลัก
ผู้เขียนตั้งใจสื่อ
เพื่อให้ทุกคนมีสติ ไม่ได้เขียนเพื่อมุ่งทำลาย แต่ให้ทุกคนคิดถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมูลนิธิเหล่านี้
และมองให้รอบด้านในการบริจาคช่วยเหลือไม่ว่า เขาคนนั้นจะเป็นเด็กกำพร้าหรือว่าผู้ได้รับผลกระทบให้เห็นแง่มุมอื่นๆ
บ้าง ไม่ควรสนับสนุนเกินกว่าเหตุ แต่การช่วยกันบริจาคหรือระดมทุน เสมือนหนึ่งท่านยังต้องการคงความรุนแรงไว้ใช่หรือไม่?
อีกทั้งสวนกระแสไม่ต้องการสันติสุข
ที่คนส่วนใหญ่ต้องการ
สุดท้ายแล้วเป็นวัฎจักรของความชั่วร้ายตั้งแต่จุดเริ่มต้นความรุนแรงมาถึงขบวนการเยียวยา
หากินบนความเดือดร้อนบนคราบน้ำตาของผู้สูญเสีย สิ่งที่รับไม่ได้คือ
การหากินกับเด็ก ซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่ขาดพ่อและแม่ จากการกระทำของกลุ่ม ผกร.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น