วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2565

มูลนิธินูซันตารา...มูลนิธิเพื่อเด็กหรือเพื่อใคร?

ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วง 18 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบในเชิงสังคมต่อเด็กและคนในพื้นที่อย่างรุนแรง

นอกจากตัวเลขการเสียชีวิตและบาดเจ็บแล้ว ยังพบเด็กกำพร้า ที่มีมากกว่าห้าพันคน ส่วนใหญ่กำพร้าพ่อและกลุ่มที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่ ซึ่งกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น และยังพบปัญหาตามมาญาติที่ต้องรับภาระเป็นผู้ปกครองดูแลเด็กต้องการเงินเยียวยาเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ต้องการดูแลเด็ก ปัญหาเด็กที่ขาดพ่อหรือแม่ สาเหตุเกิดจากการใช้ความรุนแรงของกลุ่มขบวนการ ผกร.ในพื้นที่

ล่าสุด เพจ : มูลนิธินูซันตารา (NUSANTARA Patani) ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อเด็กกำพร้าในพื้นที่ ได้มีการประชาสัมพันธ์จัดกิจกรรมหารายได้ช่วยเหลือเด็กกำพร้า ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ปัจจุบัน มีเด็กกำพร้า ประมาณกว่า 200 คน ที่มูลนิธินูซันตารา ให้ทุนการศึกษาต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่กำพร้าจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการจัดกิจกรรมทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา

หากดูผิวเผินแล้ว เหมือนเป็นการหารายได้ช่วยสังคม เป็นความปรารถนาดีในการช่วยเหลือเด็ก แต่โดยเนื้อแท้แล้วเด็กกำพร้าเหล่านี้ เป็นผลพวงจากการใช้ความรุนแรงตลอดระยะเวลาสิบกว่าปี ที่ผ่านมา ที่สำคัญกลับมีกลุ่มองค์กรที่เปิดมูลนิธิขึ้นมาบังหน้าเพื่อทำการหากินกับเด็ก

การดำเนินกิจกรรมแทบทุกครั้ง ยังคงยึดความต้องการของกลุ่มตัวเองเป็นหลัก คือนอกจากใช้โอกาสในการหารายได้เข้ามูลนิธิแล้ว ยังแสวงประโยชน์เข้าตนเอง และยังคงเชื่อว่า นอกจากนี้แล้วยังมีการบ่มเพาะให้เด็กเยาวชนเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐ บิดเบือนข้อเท็จจริงกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐคือ อาชญากรก่อความรุนแรงต่อครอบครัวเด็ก ล้วนแล้วเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่แทบทั้งสิ้น ทำให้เด็กเกิดความโกรธแค้นจงเกลียดจงชัง นำมาสู่การใช้ความรุนแรงที่ไม่มีวันจบสิ้น

สำหรับมูลนิธินูซันตารา (NUSANTARA Patani) มีนายมูฮำหมัดอาลาดี เด็งนิ เป็นประธานมูลนิธิ ที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ประสานสอดคล้องกับปีกการเมืองกลุ่มขบวนการ BRN และเชื่อว่ายังมีองค์ต่างๆ เข้ามามีส่วนในการขับเคลื่อนมูลนิธิ

โดยมูลนิธิ ดึงคนในพื้นที่เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของกลุ่มมีการโฆษณาชวนเชื่อ ให้มาทำบุญร่วมกันให้กับเด็กกำพร้า โดยอ้างหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อต้องการเงินเยียวยาเป็นหลัก แท้จริงแล้วการเข้ามาช่วยเหลือแอบแฝงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตนเองเป็นหลัก

ผู้เขียนตั้งใจสื่อ เพื่อให้ทุกคนมีสติ ไม่ได้เขียนเพื่อมุ่งทำลาย แต่ให้ทุกคนคิดถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมูลนิธิเหล่านี้ และมองให้รอบด้านในการบริจาคช่วยเหลือไม่ว่า เขาคนนั้นจะเป็นเด็กกำพร้าหรือว่าผู้ได้รับผลกระทบให้เห็นแง่มุมอื่นๆ บ้าง ไม่ควรสนับสนุนเกินกว่าเหตุ แต่การช่วยกันบริจาคหรือระดมทุน เสมือนหนึ่งท่านยังต้องการคงความรุนแรงไว้ใช่หรือไม่?

อีกทั้งสวนกระแสไม่ต้องการสันติสุข ที่คนส่วนใหญ่ต้องการ สุดท้ายแล้วเป็นวัฎจักรของความชั่วร้ายตั้งแต่จุดเริ่มต้นความรุนแรงมาถึงขบวนการเยียวยา หากินบนความเดือดร้อนบนคราบน้ำตาของผู้สูญเสีย สิ่งที่รับไม่ได้คือ การหากินกับเด็ก ซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่ขาดพ่อและแม่ จากการกระทำของกลุ่ม ผกร.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น