ขบวนการชั่วร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เคลื่อนไหวต่อสู้อ้างว่าทำเพื่อแผ่นดิน
ทำเพื่อศาสนา
มีการปฏิบัติทั้งงานการเมืองและการใช้กำลังที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ “เอกราช”
โดยที่ฝ่ายใช้กำลังทำการสู้รบแบบกองโจรมุ่งสร้างความปั่นป่วนด้วยการก่อเหตุร้ายทำลายชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์
ทำลายทรัพย์สิน สาธารณูปโภคของรัฐอย่างต่อเนื่อง
ตลอด
18 ปีที่ผ่านมา ณ ปลายด้ามขวานแห่งนี้ หลายคนสงสัยว่าเมื่อไหร่!!
เหตุการณ์จะสงบสักที
และผู้ที่ทำการก่อเหตุทั้งที่ถูกจับดำเนินคดีหรือเสียชีวิตจากการปะทะ ทำไม?
ยังมีตัวตายตัวแทนเกิดขึ้น
แต่เมื่อได้รับฟังคำบอกเล่าของสมาชิกแนวร่วมที่จับกุม
ซึ่งแต่ละคนได้เล่าถึงปูมหลัง “จุดเริ่มต้นเข้าสู่ขบวนการ”
เกิดจากถูกชักจูงจากแกนนำในพื้นที่
ซึ่งใช้เล่ห์เพอุบายหลอกล่อชักชวนเยาวชนและนักเรียน นักศึกษาเพื่อให้เข้าสู่องค์กร
ด้วยการปลูกฝังและบ่มเพาะแนวความคิดตามที่ขบวนการต้องการ โดยเป็นขั้นตอน
1.
เนื้อหาของการบ่มเพาะ
การปลูกฝังอุดมการณ์แนวความคิดให้กับแนวร่วมยุคใหม่
กลุ่ม ผกร.ยังคงใช้เนื้อหาในการบ่มเพาะ 3 ประเด็นหลักด้วยกัน คือ
ด้านประวัติศาสตร์ ศาสนาอิสลาม และเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตประชาชนชาวไทยมุสลิมจำนวนมาก
2.การปลุกระดม
ฝ่ายปลุกระดมไม่มีแบบแผนตายตัวขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
แต่ส่วนมากมักเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้
หรือได้รับการยกย่องและยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ มีคุณวุฒิทางศาสนา
ขบวนการโจรใต้ฟาตอนี มีขีดความสามารถในการสร้างผู้นำศาสนา รวมทั้งครูสอนศาสนา
(อุสตาส) ให้เป็นแกนนำในพื้นที่ต่างๆ แล้วแบ่งกันรับผิดชอบ
ออกปฏิบัติการตามคำสั่งในการปลุกระดม
และยังสามารถทำให้ผู้นำศาสนาเหล่านี้มีความเลื่อมใสศรัทธา
พอกพูนอุดมการณ์อย่างชนิดถวายหัวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือการได้เป็นนักรบของพระเจ้า
หลงเชื่อว่าเป็นการทำสงครามเพื่อปลดปล่อยอิสลามจากการกดขี่ข่มเหงของคนต่างศาสนา
3.สถานที่ปลุกระดมบ่มเพาะ
กลุ่ม
ผกร.ยังคงลักลอบใช้สถานที่ทั้งภายในสถานศึกษาและภายนอสถานศึกษาในการบ่มเพาะเยาวชนหรือแนวร่วม
ตามจังหวะโอกาสจะเอื้ออำนวย
แหล่งบ่มเพาะในสถานศึกษานับว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะชั้นดีของกลุ่ม
ผกร.เลยทีเดียว เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการบ่มเพาะแนวร่วมสั้นกว่านอกสถานศึกษา
ยิ่งไปกว่านั้นเยาวชนหรือแนวร่วมที่เข้าสู่ขบวนการบ่มเพาะในสถานศึกษามักมีความตั้งใจในการรับฟังและเชื่อฟังสูงกว่าผู้ที่เข้าร่วมการบ่มเพาะนอกสถานศึกษา
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกัน
คือ ครอบครัวต้องให้ข้อมูลความถูกต้องและข้อเท็จจริง กับลูก-หลาน
อธิบายผลกระทบต่อครอบครัวหากกระทำความผิดตามกฎหมาย จะได้รับโทษอย่างไร
อบรมสั่งสอนไปในแนวทางที่ถูกต้อง
เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีในการหลอกใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น