วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564

เหตุปะทะกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต #ซาฮีดจริงหรือ? #ไม่ต้องอาบน้ำศพ?

📌💥เหตุปะทะกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต

#ซาฮีดจริงหรือ? #ไม่ต้องอาบน้ำศพ?

กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิตเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายติดตามจับกุมแล้วเกิดการปะทะทำให้ผกร.เสียชีวิตถือเป็นการตายแบบชาฮีด ไม่ต้องอาบน้ำศพถูกต้องตามหลักศาสนาจริงหรือ? ซึ่งเป็นเพียงกลอุบายที่ต้องการโน้มน้าวให้ RKK ของกลุ่มขบวนการยอมพลีชีและทรัพย์สิน #โดยอ้างว่าผู้ที่ตายแบบชาฮีดจะได้ขึ้นสวรรค์ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการไต่สวนความดีความชั่วจากพระเจ้า เรายังคงเห็นวังวนเดิมจากอดีตจนถึงปัจจุบันเกี่ยวกับแห่ศพ ของ ผกร.ที่เสียชีวิต แน่นอนถือเป็นเรื่องที่ธรรมดา

สำหรับผู้นับถือศาสนาอิสลาม ที่จะมีการแห่ศพ #แต่ที่ต่างออกไปคือการไม่อาบน้ำศพ #แล้วยังยกย่องว่าเป็นการตายแบบซาฮีด เป็นการตายเพื่อปกป้องศาสนา แม้ผู้ตายจะมีหมาย ป.วิอาญา หลายหมาย เข่นฆ่าชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์มานับไม่ถ้วน ก็ถูกยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษนักรบในสายตาของคนในชุมชนตนเอง กลายเป็นไอดอลให้กับเด็กเยาวชนรุ่นหลังให้เกิดความรู้สึกร่วมนำไปสู่การเข้าสู่วังวนความชั่วร้ายสร้างความรุนแรงแบบไม่มีวันจบ

และตายขณะที่ละเมิดต่อคำสอนของพระองค์อัลลอหและท่านศาสดา เรื่องการฆ่าคนบริสุทธิ์ ย่อมตกศาสนา กลายเป็นคนนอกศาสนาไปในที่สุด หลุดออกไป อยู่นอกการอนุมัติทั้งปวง ของพระองค์อัลลอฮ์ ดั่งที่พระองค์ตรัสไว้ความว่า “และฉันไม่ได้สร้างญินและมนุษย์มาเพื่ออื่นใดนอกจาการเคารพภักดีต่อฉัน” (51 : 56) ไม่ใช่เกิดเพื่อมาต่อสู้ แย่งชิงอำนาจ ตามที่กลุ่มขบวนการฯ แอบอ้าง....#เพราะประเทศไทยให้สิทธิทุกอย่างแล้ว....ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวมุสลิมทั้งหลาย เกรงกลัวยิ่งนัก ไม่มีใครอยากตกอยู่ในสถานะนั้นอย่างแน่นอน เพราะจะต้องถูกเขี่ยลงนรก วิญญาณจึงไม่มีโอกาส ได้เข้ารับการพิพากษา ในวันกียามะห์แต่จะหายสาปสูญไปในไฟนรกตลอดกาล.....

"พวกเขาจึงไม่ใช่นักรบเพื่อศาสนา นักรบแห่งพระองค์อัลลอฮ์ หรือวีรบุรุษ แต่เป็นนักรบเพื่อคนชั่วที่ใคร่ได้อำนาจเท่านั้นเอง"

ซึ่งเชคยูซูฟ นักการศาสนาอิสลามในซาอุฯ #ตอบคำถามกรณีผู้ก่อเหตุร้ายเสียชีวิตจาก เจ้าหน้าที่วิสามัญแล้วหลงผิดอ้างว่า เป็นการตายแบบชาฮีดไม่อาบน้ำศพไม่มีการละหมาด ซึ่งจากคำตอบจุฬาราชมนตรี 24 ก.ค. 61 #ถือว่าไม่เป็นชาฮีด ในกรณีนี้ญาติผู้ตายหรือคนทั้งหมู่บ้านจะบาปหรือไม่คำตอบคือ อิหม่ามหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีความรู้ทางศาสนาจะต้องชี้นำหลักที่ถูกต้องหากไม่บอกกล่าวถือเป็นบาป สำหรับผู้ตาม “อะวาม” ได้รับการยกเว้นในครั้งแรกนี้ แต่ต่อไปถือเป็นหน้าที่ทุกคนจะต้องสอดส่องดูแลไม่ให้หลงผิด

ตายแบบไหนที่เรียกว่า "ซาฮีด"

"ซาฮีด" ในข้อชี้ขาดของโลกนี้และโลกหน้า คือ ผู้ตาย"ซาฮีด" ในสมรภูมิ (เพื่อปกป้องและเชิดชูธงชัยแห่งศาสนาอิสลามให้สูงส่ง) ข้อชี้ขาดของโลกนี้คือ ไม่มีการอาบน้ำศพ และไม่มี การละหมาดให้ตามทัศนะของปวงปราชญ์ (ญุมฮูรุ้ลอุละมาอฺ) และข้อชี้ขาดของโลกหน้านั้น คือ ผู้ตาย"ซาฮีด" นั้นจะได้รับอานิสงค์เป็นกรณีพิเศษ ถือเป็นผู้ตาย"ซาฮีด" ที่ได้รับภาคผลของการเป็น"ซาฮีด" (ชะฮาดะฮฺ) ที่สมบูรณ์ (อัลฟิกฮุล อิสลามี่ย์ ว่า อะดิ้ลล่าตุฮู ; วะฮฺบะฮฺ อัซซุฮัยลี่ย์, 2/559 , ดารุ้ลฟิกร์ , ดามัสกัส ; 1989)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น