ไทย - มาเลเซีย
มุ่งพัฒนาพื้นที่ชายแดนเป็นเสาหลักแห่งความมั่งคั่ง และ “แผ่นดินทอง”
สร้างความสุขสงบและความเป็นอยู่ที่ดีแก่ประชาชาชนทั้งสองประเทศ
เมื่อ
9 ก.พ.66 เวลา 18.20 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กห.
แถลงข่าวร่วมกับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (Dato’ Seri Anwar Ibrahim) โดยการหารือมีผลลัพธ์สำคัญ ดังนี้
ด้านการส่งเสริมการเชื่อมโยงกันในทุกมิติ
ทั้งสองฝ่ายมีเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะสนับสนุนการไปมาหาสู่และการค้าขายระหว่างไทยและมาเลเซีย
ด้านการยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน
เพื่อเพิ่มมูลค่าและพลวัตของการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการค้า คือ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568
ด้านการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ
เชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
และรัฐชายแดนภาคเหนือของมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนระยะยาว
และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ในสาขาที่มีศักยภาพ เช่น อุตสาหกรรมยางพารา
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
เป็นต้น
ด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับประชาชน
โดยเฉพาะด้านสังคมและวัฒนธรรม ผ่านความร่วมมือ ด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และนวัตกรรม
ด้านการร่วมมือกันในระดับภูมิภาคและในเวทีระหว่างประเทศ
เพื่อรักษาสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนความตกลง
4 ฉบับ ได้แก่
1.
บันทึกความเข้าใจระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ Tenaga Nasional
Berhad (TNB) ในการจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของข้อเสนอในการเสริมสร้างศักยภาพการเชื่อมต่อโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าระหว่างคาบสมุทรมาเลเซียและไทย
2.
บันทึกความเข้าใจระหว่าง TNB
Renewable Sdn. Bhd. (“TRe”) และ Planet Utility Co., Ltd.
(“Planet Utility”) เกี่ยวกับข้อเสนอในการร่วมมือสำรวจศักยภาพของเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนและการผลิตพลังงานในประเทศไทย
3.
บันทึกความตกลงระหว่าง TNB
Power Generation Sdn. Bhd. (“GenCo”) และ B Grimm Power
Public Co. Ltd. (“B Grimm”) ซึ่งเกี่ยวกับข้อเสนอในการแสวงหาโอกาสในการทำงานร่วมกัน
การมีส่วนร่วม และการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
4.
บันทึกความเข้าใจระหว่าง Malaysia
Digital Economy Corporation SDN. BHD. (MDEC) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
(depa)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น