ขอบคุณและเป็นเกียรติที่มาเยือนชายแดนใต้
เด็กหญิงนิภาดา in
วังยะหริ่ง🕌อ.ยะหริ่ง
จ.ปัตตานี
แดดร่มลมตกในบ่ายวันหนึ่ง
ณ ช่วงเวลาที่อยู่ในเขตจังหวัดปัตตานี หลังจากที่ขี่รถหลงวนๆ one way อยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง นามว่า “ยะหริ่ง”
อำเภอยะหริ่ง
เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมืองมากนัก
ขี่รถมาไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงค่ะ
ณ
อำเภอแห่งนี้ มีทั้งป่าโกงกาง สวนมะพร้าว และมีอาณาเขตติดกับทะเล
ถือว่าเป็นอำเภอที่เราสามารถเห็นวงจรชีวิตของชาวบ้านที่นี่ชัดเจนมากๆ วันที่อ้อมกำลังจะออกจากตัวอำเภอ…อ้อมได้มีโอกาสพูดคุยกับก๊ะเจ้าของร้านขนมในตัวเมืองเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว
และความสำคัญของเมืองนี้พอสังเขป เพราะส่วนใหญ่อ้อมอาศัยเวลาช่วงบ่ายเกือบทั้งหมด
เอนกายคลายสายตาไปกับเก้าอี้สีดำหน้าร้าน
เขาว่ากันว่า
เมืองแห่งนี้เป็นเมืองเก่า
ดูจากอาคารบ้านเรือนก็ทราบแล้วว่าอายุของเรือนไม้ที่ถูกปลูกสร้างในบริเวณตัวอำเภอต้องมีไม่ต่ำกว่า
50 ปีขึ้นไปแน่นอน โดยเฉพาะสถานที่ที่บอกได้คำเดียวว่า
ใครมายะหริ่งแล้วต้องแวะ เดี๋ยวจะมาไม่ถึง นั่นคือ “วังยะหริ่ง” หรือบางท่านเรียก
วังเจ้าเมืองยะหริ่ง ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2428
ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระยาพิพิธเสนามาตยาธิปบดีศรีสุรสงคราม
เจ้าประเทศราชเมืองยะหริ่ง ลำดับ 3
ซึ่งเป็นบุตรของพระยาพิบูลเสนานุกิจพิเชษฐ์ภักดี ผู้เป็นพระยาเมืองยะหริ่งลำดับ 2
เผื่อใครยังไม่รู้
สยามประเทศเมื่อก่อนยังมีการส่งบรรณาการกันอยู่ โดยยะหริ่งยังเป็นประเทศราชของสยาม
ต้องทำการส่งเครื่องบรรณาการ 3 ปี ต่อ 1 ครั้ง
จึงทำให้วังแห่งนี้มีคสามสำคัญกับดินแดนแห่งนี้มาก🪙⚜️
พอลุกจากเก้าอี้สีดำนั่นได้
ก็จัดแจงตัวเองขี่รถวนๆ หาวังเลยฮะ ก่อนที่วังจะปิดทำการ
ซึ่งอ้อมยอมรับว่าตัวเองก็วนหลงอีกเช่นเคย
จนเจ้าหน้าที่เขาขี่รถวนมาหาอ้อมจนเจอแถวๆ นั้นแหละ ถึงได้นำทางเข้าวังได้😂
อ้อมเลี้ยวเข้าทางด้านหลัง
เนื่องจากประตูด้านหน้ากำลังอยู่ในช่วงปรับปรุง ตอนเข้ามาด้านข้างวัง
ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนยะหริ่ง
เราจะผ่านเข้ามาทางบริษัทของลูกหลานของเจ้าเมืองที่นี่ค่ะ
จะบอกว่า
ถึงเวลาจะผ่านมานานเป็นร้อยๆ ปีแล้ว
แต่วังแห่งนี้ยังมีลูกหลานของเจ้าเมืองที่เป็นเชื่อสายท่านโดยตรงอาศัยภายในวังค่ะ ทำให้ตอนเราเข้ามาในบริเวณวัง
จะให้บรรยากาศไม่เหมือนวังทั่วๆ ไป เพราะวังแห่งนี้ยังมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ☺️
ตอนเลี้ยวเข้ามาจอดด้านหน้า
บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ที่มีอายุอานามกว่า 100 ปี ครั้นเอี้ยวหน้าหันกลับมามองทางตัววัง เราจะเห็นว่าเป็นลักษณะกึ่งปูนกึ่งไม้
ออกแบบตัวเรือนด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ไทยมุสลิมทางภาคใต้ผสมผสานกลิ่นอายแบบตะวันตก
สิ่งที่สะดุดตาอ้อมมากๆ
คือบันไดโค้งสไตล์ยุโรป ทอดยาวขึ้นไปถึงระเบียงด้านบน โดยเราจะมองเห็นช่องแสงใกล้ๆ
ประตูถูกประดับประดาด้วยกระจกสีสันต่างๆ และช่องระบายอากาศเป็นไม้ที่ถูกฉลุด้วยลวดลายพฤกษาตามแบบศิลปะชวา
ถอดรองเท้าและค่อยๆ
ไต่ระดับทางเดินขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงบานประตูที่อยู่เบื้องหน้า
ทอดสายตาเข้าไปด้านในจะพบห้องโถงขนาดใหญ่
ซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้านายในอดีตใช้นั่งประชุมเจรจาการบ้านการเมืองกัน ณ
ห้องแห้งนี้
ภายในห้องโถงที่เราก้าวเท้าเข้ามา
เราจะเห็นเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ ที่ในอดีตเจ้านายที่นี่เคยใช้งานตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ
และยังเห็นถ้วยชามรามไหถูกจัดแสดงในตู้โชว์ของวังอีกด้วย
ตามผนังของเรือนจะมองเห็นบรรดารูปเจ้านายในเครื่องแบบทางการตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ใช้ชีวิตอยู่
ณ วังแห่งนี้
ให้เหล่าผู้มาเยือนได้เห็นถึงความเป็นมาเป็นไปของวังโดยมีไกด์คอยบรรยายให้ความรู้ตลอดการเข้าชมค่ะ
สามารถถามข้อมูลได้เลย ไกด์น่ารักมาก❤️
บางจุดเข้าไปดูไม่ได้เพราะเป็นบริเวณที่มีลูกหลานของท่านเจ้าเมืองอาศัยอยู่จริงค่ะ
แต่สามารถถ่ายรูปได้ และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกคนในเวลาราชการ
สามารถมาได้เลยจ้า
ถือว่าเป็นความโชคดีของอ้อมมากๆ
ที่มีคนนำทางพาเข้าไปนะคะ เพราะถ้าไม่มีพาเข้าไป อ้อมจะคิดว่าวังที่นี่ปิดอยู่
ถึงจะเพลียๆ
ไปบ้างในวันที่เดินทางไปชมวังประจำเมือง
แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีของเด็กผู้หญิงนักเดินทางคนนี้เป็นอย่างมาก
และรู้สึกเป็นเกียรติสุดๆ ที่ได้มีโอกาสมาชมสถานที่ที่มีความสำคัญต่อผู้คนใน 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ค่ะ
ก่อนจะออกจากอำเภอแห่งนี้
อ้อมขอฝากวังยะหริ่ง ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจคนไทยทุกคนด้วยนะค้าบ☺️🕌
ด้วยรักและเดี๋ยวคลิปตามมาภายหลังนะคะ🫶
เด็กหญิงนิภาดา🐒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น