📌รัฐบาลเดินหน้าสังคมพหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนใต้
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการทำนุบำรุงศาสนาและส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม
นอกจากการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน และอนุรักษ์โบราณวัตถุทางศาสนาแล้ว
รัฐบาลยังได้จัดสรรงบประมาณให้กับศอ.บต เพื่อพาชาวไทยพุทธไปแสวงบุญที่สังเวชนียสถาน
ณ ประเทศอินเดีย–เนปาล ในช่วงต้นปีหน้าและชาวไทยมุสลิมจะได้ไปร่วมประกอบพิธีฮัจญ์
ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย
โดยประชาชนจะต้องเป็นผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้
และทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม เพื่อสร้างสันติสุข สร้างคุณธรรมในสังคมต่อไป
ล่าสุดนางสาวรัชดา
ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า
ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีให้การบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ยึดการมีส่วนร่วม
และให้ความสำคัญของสังคมพหุวัฒนธรรม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหสัดชายแดนใต้(ศอ.บต.)
ผู้เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมศิลปากร กอ.รมน.ภาค 4
ส่วนหน้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินโครงการ
การปฏิสังขรณ์วัดที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งมีอยู่ 138 แห่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ชำรุดทรุดโทรมจำนวนมาก รวมถึงวัดที่อยู่ในพื้นที่โดดเดี่ยว
ห่างไกล ให้กลับสู่สภาพปกติ
เพื่อให้ชุมชนไทยพุทธ
ได้มีวัดในพื้นที่เป็นศูนย์รวมจิตใจสามารถประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาได้ตามปกติ
และสร้างพื้นที่กลางทางศาสนาเพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม
ซึ่งในเบื้องต้น ปี 66 จะดำเนินการปฏิสังขรณ์วัดเก่า 10 แห่ง และ 7 วัดที่อยู่ห่างไกล
ควบคู่กันไป
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์มัสยิดเก่าแก่
และได้สร้างพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัล-กุรอานในพื้นที่ของโรงเรียนสมานมิตรวิทยา
อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคัมภีร์อัล-กุรอานโบราณและมรดกวัฒนธรรมอิสลาม
ตลอดจนเป็นสถานที่จัดเก็บและจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับคัมภีร์อัล-กุรอานที่ได้มาตรฐานสากล
และเป็นสื่อกลางในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีอันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
ขณะนี้ มีชาวต่างชาติและนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศมาเยือนจำนวนมาก
คาดจะเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น